วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ม้วนจารึก หมายเลข 1



                 วันนี้ ข้าเริ่มต้นชีวิตใหม่
                 วันนี้  ข้าได้เปลื้องคราบเก่า ที่ทุกข์ทนมาแสนนาน จากรอยถลอกปอกเปิกของความล้มเหลว และบาดแผลแห่งความต่ำต้อยสามัญ

                 วันนี้  ข้าเกิดใหม่ และแหล่งกำเนิดแห่งข้า คือ สวนองุ่นที่เอื้อผลแก่ทุกคน

                 วันนี้  ข้าจะเด็ดพวงองุ่นแห่งปัญญาญาณ  จากต้นที่สูงที่สุด  และให้ผลดกที่สุดในสวนองุ่นนี้  เพราะผู้ปลูกมันคือผู้ทรงปรีชาญาณที่สุดในวิชาชีพของข้าซึ่งมาก่อนข้าหลายชั่วคนมาแล้ว

                 วันนี้  ข้าจะลิ้มลองรสชาติโอชะของผลองุ่น จากต้นองุ่นในสวนนี้  ข้าจะกลืนเมล็ดแห่งความสำเร็จ ที่อยู่ในทุกผลลงไป  แล้วชีวิตใหม่  ก็จะพรูสะพรั่งขึ้นในตัวข้า

                 อาชีพที่ข้าได้เลือกแล้วนี้ เปี่ยมไปด้วยโอกาส แต่กระนั้นก็ล้นปรี่ไปด้วยความชอกช้ำ  และความสิ้นหวัง ซากร่างของผู้ที่ล้มเหลว  หากนำมาเรียงซ้อนกัน เงาของมันอาจบดบังมหาปิรามิดทุกแห่งในโลก
                 แต่ข้าจะไม่ล้มเหลวเยี่ยงผู้อื่น  เพราะในมือข้านี้ มีแผนที่ ซึ่งจะนำข้าฝ่าข้ามห้วงน้ำอันตราย  สู่ฟากฝั่งซึ่งเมื่อวันวาน  ยังดูประหนึ่งความฝัน
ราคาที่ข้าจ่ายในการดิ้นรนต่อสู้  จะไม่ใช่ความล้มเหลวอีกต่อไป
                 เยี่ยงเดียวกับที่ธรรมชาติ  มิได้สร้างร่างกายเข้ามา เพื่อทนทรมานกับความเจ็บปวด  ชีวิตข้า  ก็มิได้ถูกสร้างมาเพื่อทนทรมานกับความล้มเหลวเช่นกัน

                 ความล้มเหลว  ก็เช่นเดียวกับความเจ็บปวด  มิอาจเข้ากันได้กับชีวิตของข้า
                 ในอดีต  ข้ายอมรับมัน  เหมือนกับยอมรับความเจ็บปวด  บัดนี้  ข้าปฏิเสธมันและเตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้ปัญญาญาณ  และหลักการที่จะนำข้าออกจากเงามืดสู่แสงตะวันแห่งความมั่งคั่ง  ฐานะ  และความสุขสันต์ ที่มหาศาลเกินกว่าความฝันที่เลิศลอยที่สุดของข้าจะไปถึง

                กาลเวลา สอนสรรพสิ่งแก่ผู้ที่มีชีวิตอยู่นิรันดร์  แต่ข้ามิได้ครอบครองสิ่งฟุ่มเฟือยเยี่ยงนิรันดรภาพ

กระนั้น  ภายในช่วงเวลาที่มีอยู่ข้าต้องฝึกฝนศิลปะแห่งความอดทน เพราะลีลาของธรรมชาติไม่เคยรีบเร่ง

                เพื่อรังสฤษฏ์ต้นมะกอกราชันย์แห่งปวงพฤกษาต้องใช้เวลานับร้อยปี  ต้นหอมนั้น  แก่จัดแล้วภายในเก้าสัปดาห์  ข้าใช้ชีวิตมาเช่นต้นหอม  หาเป็นที่พึงใจข้าไม่

                บัดนี้  ข้าจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในหมู่ต้นมะกอกหรือที่จริงแล้ว  คือผู้ที่ยิ่งใหญ่ในหมู่นักขายนั่นเอง
                แล้วการนี้  จะสัมฤทธิ์ผลได้อย่างไรเล่า?

               ในเมื่อข้าปราศจากความรู้   และประสบการณ์ที่จะบรรลุซึ่งความยิ่งยง  ทั้งยังได้ก้าวสู่ความเขลา  และร่วงลงในบ่อแห่งความสงสารตนเอง

                คำตอบนั้น  เรียบง่าย
                ข้าจะตั้งต้นการเดินทางของข้า  โดยไม่ยอมถูกถ่วงด้วยน้ำหนักของความรู้ที่ไม่จำเป็นและประสบการณ์ที่ไร้ความหมาย

                 ธรรมชาติ ได้เอื้อความรู้และสัญชาตญาณให้ข้ายิ่งใหญ่กว่าสัตว์ทุกตัวในพงไพรและคุณค่าของประสบการณ์นั้น  ธรรมดาแล้วถูกประเมินมากเกินไปโดยคนชราที่ผงกศีรษะอย่างสุขุม  แต่เจรจาอย่างโง่เขลา
อันที่จริงแล้ว  การสั่งสอนของประสบการณ์  กลืนเวลาของมนุษย์  ดังนั้น  คุณค่าของบทเรียน  จากประสบการณ์จึงมลายไปพร้อมๆกับเวลาที่จำเป็นในการให้ได้มา  ซึ่งเคล็ดปัญหาพิเศษของมัน  เรียนจบย่อมเปล่าค่าสำหรับคนตาย

                 ยิ่งกว่านั้น  ประสบการณ์  อาจเทียบได้กับสิ่งที่เป็นสมัยนิยม  การกระทำที่พิสูจน์แล้วว่า  ประสพความสำเร็จวันนี้   พรุ่งนี้อาจทำไม่ได้และไร้ผล
                 มีเพียงหลักการเท่านั้น  ที่ยืนยง  และบัดนี้  ข้าได้ครอบครองไว้แล้ว  กฎเกณฑ์ซึ่งจะนำไปสู่ความยิ่งใหญ่  อยู่ในเนื้อความที่จารึกไว้บนม้วนแผ่นหนังเหล่านี้  สิ่งที่มันจะสอนข้า  เป็นเรื่องของการป้องกันความล้มเหลว  มากกว่าการประสพความสำเร็จ

                 เพราะความสำเร็จคืออะไรเล่า  หากมิใช่สถานะหนึ่งแห่งจิตใจ?

                ใครบ้างเล่า  ในบรรดาผู้ทรงปัญญานับพัน  ที่สามารถให้คำจำกัดความของความสำเร็จ  ได้ด้วยถ้อยคำเช่นเดียวกัน


                 แต่ความล้มเหลวนั้น  พรรณนาได้ทางเดียว

                 ความล้มเหลว  คือความไร้ความสามารถของมนุษย์ในอันที่จะบรรลุเป้าหมายในชีวิต  ไม่ว่าเป้าหมายนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม

                 อันที่จริงแล้วความแตกต่างเพียงประการเดียวระหว่างเหล่าผู้ล้มเหลวกับเหล่าผู้ประสพความสำเร็จ  อยู่ที่ความแตกต่างของอุปนิสัยของคนเหล่านั้น
                 อุปนิสัยที่ดี คือกุญแจสู่ความสำเร็จทั้งมวล

                 อุปนิสัยที่เลว  คือประตูที่ไม่ได้ลงกลอนไว้  ซึ่งเปิดไปสู่ความล้มเหลว

                 ดังนั้น  กฎข้อแรก  ซึ่งข้าจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดก่อนข้ออื่น ก็คือ

                 ข้าจะสร้างอุปนิสัยที่ดีขึ้นมา  แล้วกลายเป็นทาสของมัน

เมื่อยังเด็ก  ข้าเป็นทาสของความหุนหัน  มาบัดนี้  ข้าเป็นทาสของนิสัย  เช่นเดียวกับคนที่โตแล้วทุกคน
   เจตจำนงอิสระของข้าพ่ายต่อนิสัยที่พอกพูนสั่งสมขึ้นตามวันเวลา  การกระทำในอดีต  ได้กำหนดเส้นทางซึ่งคุกคามที่จะกักขังอนาคตของข้า
                  การกระทำของข้า  ถูกครอบงำด้วยความเอร็ดอร่อย  ตัณหา  อุปาทาน  ความละโมบ  ความรัก  ความกลัว  สิ่งแวดล้อม  อุปนิสัย  และที่ร้ายกาจที่สุดในบรรดาทรราชเหล่านี้คือ  อุปนิสัย

                  ดังนั้น  หากข้าต้องตกเป็นทาสของอุปนิสัย  ขอให้ข้าเป็นทาสของอุปนิสัยที่ดีเถิด
                  นิสัยเลว  ต้องถูกทำลายไป  เตรียมพรวนดินไว้สำหรับเมล็ดพืชพันธุ์ดี
                  ข้าจะสร้างอุปนิสัยที่ดีขึ้นมา  แล้วกลายเป็นทาสของมัน
                  แล้วข้าจะบรรลุการกระทำที่ยากเข็ญนี้ได้อย่างไร?

                  มันจะสำเร็จลงด้วยม้วนจารึกเหล่านี้  เพราะแต่ละม้วนประกอบด้วย- หลักการข้อหนึ่ง  ที่จะขับนิสัยเลวๆ ไปจากชีวิตของข้า  แล้วแทนที่ด้วยสิ่งที่จะนำข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้น

                  เพราะมันเป็นกฎธรรมชาติข้อหนึ่ง  ที่มีเพียงนิสัยหนึ่งเท่านั้น  จึงจะกำราบอีกนิสัยหนึ่งลงได้
                  ดังนั้น  เพื่อให้การดำเนินไปดังที่กล่าวมา  ข้าจึงต้องฝึกวินัยตนเอง  ด้วยนิสัยใหม่ประการแรกนั่นคือ  :

                  ข้าจะอ่านจารึกแต่ละม้วน  ตามที่กำหนดมานี้  เป็นเวลาสามสิบวัน  ก่อนเริ่มอ่านม้วนต่อไป

                  แรกสุด  ข้าจะอ่านถ้อยความเหล่านี้เงียบๆ เมื่อตื่นขึ้น

                 จากนั้น  ข้าจะอ่านถ้อยความเหล่านี้อย่างเงียบๆ  หลังอาหารกลางวัน

                 ท้ายสุด  ข้าจะอ่านถ้อยความเหล่านี้อีกครั้ง  ก่อนพักผ่อน  เมื่อสิ้น
สุดวัน ที่สำคัญที่สุด  ก็คือ  คราวนี้  ต้องอ่านออกมาดังๆ

                 วันต่อไป  ข้าจะกระทำเช่นเดียวกัน  และทำติดต่อไปดังนี้เรื่อยๆ  เป็นเวลาสามสิบวัน

                 จากนั้นข้าก็จะเริ่มอ่านม้วนจารึกต่อไป  แล้วก็กระทำเช่นเดียวกันอีกสามสิบวัน

                 ข้าจะกระทำดังนี้  ไปจนกระทั่งอยู่กับม้วนจารึกแต่ละม้วน  เป็นเวลาสามสิบวัน  และการอ่านกลายเป็นนิสัยของข้า
                  นิสัยนี้  จะทำให้ข้าบรรลุสิ่งใดเล่า?
มันแฝงไว้ด้วยความลับ  ของบุรุษ(หรืออิสตรี)ผู้ประสพความสำเร็จทั้งหลาย  ขณะข้าอ่านถ้อยความเหล่านี้  ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวัน  มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของจิตใจข้า

                   แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ  มันจะซึมซาบเข้าสู่จิตอีกส่วนหนึ่งของข้าด้วย  ส่วนเร้นลับที่ไม่เคยหลับใหล  ซึ่งสร้างความฝันทั้งมวลของข้า และบ่อยครั้ง  ที่ทำให้ข้ากระทำในสิ่งที่ตนเองก็ไม่เข้าใจ
                   เมื่ออ่านถ้อยความเหล่านี้  เอิบอาบเข้าสู่ส่วนเร้นลับของจิตใจแล้ว  แต่ละวันข้าจะตื่นด้วยความมีชีวิตชีวา  อย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเลย

                   ความแข็งขันจะเพิ่มพูนขึ้น

                   ความกระตือรือร้นจะเกิดขึ้น

                   ความปรารถนาที่จะออกไปเผชิญโลก  จะพิชิตความหวาดกลัว  ที่ครั้งหนึ่งข้าเคยรู้สึกในยามเช้าอย่างราบคาบ

                  ข้าจะมีความสุขอย่างที่ข้าไม่เคยเชื่อมาก่อนเลยว่า  มันเป็นไปได้  ในโลกแห่งการดิ้นรน  และโศกสลดนี้
                  ข้าจะพบว่า  ตนเองมีปฏิกิริยา  สนองต่อสถานการณ์ทั้งหลาย  ซึ่งเข้ามาเผชิญตามที่ม้วนจารึกบัญชาไว้  และในไม่ช้า  การกระทำ  และปฏิกิริยาตอบสนองเหล่านี้  ก็จะเป็นไปได้ง่ายขึ้น  เพราะกิจกรรมอะไรก็ตาม ย่อมง่ายขึ้น  เมื่อฝึกฝน

                  ดังนี้  นิสัยใหม่ที่ดีก็จะเกิดขึ้น  เพราะเมื่อการกระทำง่ายขึ้น  ด้วยการกระทำซ้ำแล้วซ้ำอีก  มันก็จะกลายเป็นความรื่นรมย์  ที่ได้กระทำ

                  และเมื่อมันเป็นความรื่นรมย์  ก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะกระทำบ่อยครั้ง

                  เมื่อทำบ่อยครั้งก็จะกลายเป็นนิสัยแล้วข้าก็จะตกเป็นทาสของนิสัยนั้น
                  และเพราะว่า   มันเป็นนิสัยที่ดี  นี่จึงเป็นเจตจำนงของข้า

                  วันนี้ข้าเริ่มชีวิตใหม่
                  ข้าตั้งสัตย์ปฏิญาณกับตนเองอย่างเข้มงวดว่า  ไม่มีอะไรจะมาหน่วงเหนี่ยวการเจริญงอกงาม  ของชีวิตใหม่ของข้าได้
ข้าจะไม่ยอมเสียเวลาไปแม้แต่วันเดียว   ที่จะพลาดการอ่านถ้อยความเหล่านี้  เพราะวันนั้น  ไม่อาจเอาคืนมาได้และไม่อาจหาวันใหม่มาแทนได้ด้วย
                 ข้าต้องไม่  ข้าจะไม่ทำลายนิสัยการอ่านม้วนจารึกเหล่านี้ทุกวัน

                  และอันที่จริงแล้ว  การใช้เวลาชั่วครู่ชั่วยาม  ในแต่ละวัน  เพื่อนิสัยใหม่นี้เป็นราคาเล็กน้อยเท่านั้น  ที่ข้าต้องจ่ายเพื่อความสุข  และความสำเร็จซึ่งจะเป็นของข้า

                   ขณะที่อ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ข้าจะไม่ปล่อยให้ความรวบรัด  หรือความเรียบง่ายของข้อความในม้วนจารึกแต่ละม้วน  เป็นสาเหตุให้เห็นว่า  สิ่งที่ม้วนจารึกกล่าวถึง  ไม่จริงจังนัก

                   ผลองุ่นนับพันถูกเคี่ยวคั้น  เพื่อให้ได้แยมขวดเดียว  เปลือกและกากถูกโยนให้นกกา  ผลองุ่นแห่งปัญญาญาณทั้งหลายเหล่านี้ก็เช่นกัน  มีมากหลายที่ถูกกรองทิ้งไปในสายลม กลั่นเอาไว้แต่เพียงสัจธรรมบริสุทธิ์เท่านั้น  ในถ้อยคำแต่ละคำ

                  ข้าจะดื่มมันลงไปตามคำแนะนำ  จะไม่ปล่อยให้กระเซ็นหกแม้แต่หยดเดียว  ข้าจะกลืนเมล็ดพันธุ์แห่งความสำเร็จลงไป

                  วันนี้  คราบเก่าของข้ากลายเป็นธุลี   ข้าจะเดินอย่างทระนง  ในหมู่คน
                  พวกเขาอาจไม่รู้จักข้าก็ได้  เพราะวันนี้  ข้าเป็นคนใหม่  มีชีวิตใหม่
**********************************************************************************************************
 ม้วนจารึก1-10

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หนังสือเสียงกฎแห่งความสำเร็จ

รวม หนังสือเสียงกฎแห่งความสำเร็จ ตอนที่ 1 -10 หนังสือเสียง...กฎแห่งความสำเร็จ ตอนที่ 1 เรื่อง... “ กฎแห่งความสำเร็จ ”   The Law of s...